แซนด์ค่อยๆเผยอปากออกเมื่ออีกฝ่ายดูดดึงจนริมฝีปากเขาบวมแดงไปหมด
ปล่อยให้ร่างสูงส่งลิ้นชื้นแฉะเข้ามาสำรวจภายในโพรงปากเล็ก
ตั้นไล้เรียวลิ้นไปตามไรฟันอีกฝ่าย
ก่อนจะเกี่ยวกระหวัดเอาลิ้นอีกคนเข้ามาในปากของเขาบ้าง
จูบคราวนี้ของพวกเขาไม่ได้เร่าร้อนดุดันดังเช่นเมื่อวาน
เป็นเพียงแค่สัมผัสอ่อนโยนที่มอบให้กัน มันแผ่วเบา
…แต่ก็วาบหวาม
มือเรียวยกขึ้นเกาะเสื้อของอีกฝ่ายเอาไว้
ก่อนจะกระตุกน้อยๆเมื่อรู้สึกว่าเริ่มจะหายใจไม่ทัน ร่างสูงผละออกให้เขาสูดหายใจเข้าเล็กน้อย
ยังไม่ทันจะพักได้เท่าไหร่ก็ประกบริมฝีปากเข้ามาอีกครั้ง
มือหนาเลื่อนลงไปลูบไล้เอวบาง รั้งให้กายชิดใกล้
ร่างสูงกดจูบหนักๆลงไปบนกลีบปากสีสวยอีกสักครั้ง
ก่อนจะไล้สันจมูกลงมาตามซอกคอของอีกคน
“ดะ..
เดี๋ยว อย่าทำรอยนะ” ร่างบางเอ่ยออกมาทั้งที่ยังหอบอยู่
พาให้อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมามองอย่างมีคำถาม
“ก็บอกไว้ก่อน รอยที่มึงทำกูไว้เมื่อวานยังไม่หายเลยมั้ง”
จากที่เขามาเห็นเอาเมื่อตอนเช้าน่ะนะ รอยดูดเต็มตัวเลย
โชคดีที่ไอ้ตั้นมันไม่ได้ทำไว้สูงเกินคอเสื้อ ก็เลยไม่มีปัญหาอะไรเท่าไหร่
ตั้นชะงักไปนิดหน่อยเมื่อได้ยินดังนั้น ก่อนจะผละออกมาจากตัวของอีกคนให้ร่างบางเลิกคิ้วด้วยความสงสัย
ไม่ทันจะได้ถามอะไรร่างหนาก็จับเอาชายเสื้อของเขาแล้วถกขึ้นซะแล้ว
แซนด์ร้องออกมานิดหน่อยด้วยอารามตกใจ แต่ก็ปล่อยให้เสื้อนิสิตของตัวเองโดนโยนทิ้งไปที่มุมห้อง
ขณะที่ตั้นเองก็ถกเสื้อตัวเองถอดออกแล้วโยนตามไปเช่นกัน
“เหี้ย!! รอยพวกนี้คือ..!!?”
“อืม”
ตามเนื้อตัวของอีกคนนั้นเต็มไปด้วยรอยแดงช้ำแทบจะทุกส่วน
ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่ตรงช่วงอก ช่วงหน้าท้อง หรือแม้แต่ตรงลำคอที่แซนด์เพิ่งจะสังเกตเห็น
ไหนจะรอยฟัน รอยเล็บ ต่างจากตัวเขาที่มีเพียงแค่รอยแดงสลับเข้มบ้างจางบ้าง เรียกได้ว่าดูเล็กน้อยไปเลยเมื่อเทียบกับอีกฝ่าย
“นี่กูทำหมดเลยหรอวะเนี่ย! ขอโทษนะเว้ยมึง”
“มึงรู้มั้ย กูโดนเพื่อนแซวทั้งวันเลย”
ตั้นพูดขำๆ “แล้วรอยที่ตัวมึงอ่ะ กูไม่ได้จะทำแรงเลยนะ อันนั้นมึงขอ”
ได้ยินดังนั้นแซนด์ก็หน้าขึ้นสีก่ำ
ถึงจะจำไม่ค่อยได้ แต่ดูจากสภาพอีกฝ่ายแล้วคงไม่ได้พูดเล่น
ทำไมมึงมั่ยอ่อนโยนเลยวะไอ้แซนด์!
“มึงก็ไม่ต้องเชื่อกูทุกอย่างก็ได้
ห้ามกูบ้างดิ” เขาพูดเสียงอ่อย ยกมือขึ้นแตะรอยฟันตรงหัวไหล่อีกคนอย่างกังวล “เจ็บป้ะวะ”
“กูไม่เป็นไร” ตั้นจับมือของอีกคนขึ้นมางับนิ้วเบาๆ
“เห็นมั้ย ไม่เจ็บซะหน่อย” คนตัวเล็กทำปากยู่ด้วยรู้ว่ามันแค่ทำเพื่อให้เขาสบายใจ
“อีกอย่างตอนมึงเมาก็เซ็กซี่ดี
กูชอบ” แซนด์หน้าแดงอีกครั้ง
ถึงรู้ว่ามันจะพูดแกล้งเขาเล่นๆแต่ประโยคบ้าบอของมันก็พาเขาใจเต้นอยู่ไม่น้อย
เขาเลยแกล้งทำเมินไม่ตอบแล้วดันไหล่อีกคนลงบนเตียงแทน
“สัญญาวันนี้กูจะไม่รุนแรง”
วันนี้พี่แซนด์จะอ่อนโยน!
เขาปฏิญาณกับตัวเองในใจแล้วขยับเข้าแทรกกลางตัวอีกฝ่าย
ลากลิ้นเลียไปตามรอยแดงช้ำที่ตนเองกระทำเอาไว้ เลียจนบริเวณนั้นชื้นแฉะแล้วจูบซับราวกับว่าทำแล้วรอยช้ำมันจะหายได้ไวกว่าเดิม
สัมผัสผะแผ่วไล่จากต้นคอหนาของอีกคนลงมาตามแผ่นอกและหน้าท้องแข็งแกร่ง ได้ยินเสียงอีกฝ่ายผ่อนลมหายใจอย่างพึงพอใจ
เขาลากมือลงไปตามกางเกงสีเข้มแล้วเริ่มปลดเข็ดขัดออกให้ แซนด์ดึงกางเกงอีกฝ่ายออก ลูบไล้ไปตามสะโพกหนาและต้นขาของอีกคน
อืม มาได้แค่นี้แหละ
ตั้นมองอีกคนที่ยังคงวนอยู่ตามลำตัวของเขา
ไม่ได้คืบหน้าไปไหน และคิดว่าคงเป็นอย่างนี้ทั้งคืนแน่ๆหากเขาไม่เริ่มก่อน เขาจึงจับตัวผอมบางของอีกคนพลิกให้ลงไปอยู่ใต้ร่างแทน
กดจูบแผ่วเบาลงตรงซอกคอของอีกฝ่าย
ไล้ลงมาตามแนวลาดไหล่เล็ก ก่อนจะขบเม้มจนมันขึ้นสีเข้มแฉกเช่นรอยบนตัวเขาเอง
เงยหน้าขึ้นมองเห็นไอ้แซนด์แอบน้ำตาคลอแต่มันก็ไม่ได้ว่าอะไร เขาเลยจูบซ้ำลงไปบนรอยสีแดงช้ำอย่างอ่อนโยน
มันยกมือขึ้นมาบีบไหล่เขาเอาไว้เบาๆ ดวงหน้าหวานขึ้นสีก่ำอย่างน่าเอ็นดู
ร่างสูงไล้สันจมูกลงมาตามผิวเนียน
กดจูบบ้าง ขบเบาๆบ้าง ขณะมือก็สาละวนอยู่กับการถอดกางเกงของอีกคนออก ตั้นอ้าปากกัดลงบนแผ่นอกข้างซ้าย
เขามองรอยฟันที่ขึ้นมาจางๆอย่างพอใจ ก่อนจะครอบริมฝีปากลงไปบนตุ่มไตสีหวาน
ทั้งขบเม้มและดูดดึงจนมันเริ่มแข็งขึ้นมาหน่อยๆ เสียงหวานร้องครางออกมาสั่นเครือ ดูท่าว่าเครื่องมันเองก็คงเริ่มติดแล้วเหมือนกัน
แต่ยังก่อน
ตั้นผละออกแล้วพรมจูบวนบนหน้าท้องขาว
และเริ่มขบเม้มทำรอยอีกครั้งเหนือขอบกางเกงบ็อกเซอร์ ยามนี้มือเรียวสวยเริ่มจิกเล็บลงมาบนไหล่ของเขาเบาๆ
ร่างสูงเลื่อนตัวลงต่ำอีกครั้ง ผ่านผ้าเนื้อบางลงไปตรงต้นขาของอีกคน
“อ้ะ.. อืออ”
เสียงหวานหลุดออกมาเป็นระยะเมื่อเขาลากลิ้นร้อนเลียต้นขาด้านในของอีกคน
ขบเม้มให้ขึ้นสีจางๆจากล่างไล่ขึ้นบน และทำจนขึ้นสีเข้มสุดบริเวณเกือบติดขอบล่างของกางเกงบ็อกเซอร์
มือหนายกขึ้นไปเกี่ยวขอบกางเกงตัวบางเอาไว้
ขณะที่กำลังจะถอดออกก็กลับโดนรั้งไว้ด้วยมือเรียวสวยของใครอีกคน เจ้าตัวขบฟันลงบนริมฝีปากอิ่มท่าทางกังวล
ถึงกระนั้นพวงแก้มใสกลับขึ้นสีอย่างมีอารมณ์
เขาจูบซ้ำลงไปบนรอยสีกุหลาบอีกครั้งอย่างแผ่วเบา
ส่งสายตาบอกว่าไม่ต้องกังวล สายตาฉ่ำเยิ้มมองเขาลังเล
ก่อนจะยอมปล่อยมือให้เขาได้ถอดปราการชิ้นสุดท้ายออกในที่สุด ตั้นขยับไปหยิบเอาหมอนวางซ้อนกันตรงหัวเตียงแล้วตบปุๆ
“มึงเขยิบมานี่”
ร่างบางย้ายตัวเองขึ้นไปตามคำสั่งของอีกคน มองร่างสูงที่ถอดบ็อกเซอร์ของตัวเองออกบ้างแล้วก็ต้องหน้าแดงขึ้นมาด้วยความเขินอาย
คือรู้แล้วว่ามึงมีเชื้อฝรั่ง
แต่มันจำเป็นต้องใหญ่ขนาดนั้นมั้ยอ่ะตั้น
ร่างหนาขยับตัวเข้ามาใกล้เขาแล้วจับหัวเข่าเขาแยกออกจากกัน
แหงล่ะเขาก็ต้องขัดขืนน่ะสิ! แต่ไอ้ตั้นก็มองเขาดุๆ จนเขายอมปล่อยให้มันทำตามใจ
มันยกขาเขารั้งขึ้นแล้วแทรกตัวเข้ามาตรงกลาง
“ท่านี้มันล่อแหลมไปมั้ยวะมึง”
คนข้างใต้ถามอายๆ ร่างสูงยิ้มขำแล้วไม่ตอบ โน้มตัวลงมาประกบปากกับเขาแทน
ขยับมือมารั้งมือของเขาที่กุมปิดส่วนน่าอายของตัวเองออก
แล้วส่งมือของตัวเองมากอบกุมเอาไว้แทน
มือหนาขยับลูบส่วนที่เริ่มแข็งขืนของอีกฝ่าย
ก่อนจะเริ่มสาวไปตามความยาวเบาๆ เขาผละริมฝีปากออกแล้วขยับตัวไปกดจูบข้างขมับชื้นเหงื่อของอีกคน
เห็นดังนั้นแซนด์เองจึงเริ่มยื่นมือของตัวเองออกไปบ้าง
มือเรียวสั่นน้อยๆในคราแรก แต่สัมผัสอุ่นร้อนของอีกคนก็พาเขาเริ่มคิดอะไรไม่ออกในที่สุด
“ซี๊ดด อือ.. อ๊ะ” ร่างบางสูดปากด้วยความเสียวซ่านเมื่ออีกคนคลึงนิ้วลงไปบริเวณส่วนปลาย
ด้วยความที่เป็นเพศเดียวกัน
การจะสัมผัสอย่างไรให้อีกฝ่ายรู้สึกดีนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ยากนัก
เสียงลมหายใจหนักหน่วงปะปนไปกับเสียงชื้นแฉะของส่วนอ่อนไหว
ร่างหนาขยับสะโพกเข้าใกล้แล้วรวบเอาส่วนแข็งขืนของพวกเขาเอาไว้ด้วยกัน
ความอุ่นร้อนที่เสียดสีอยู่ด้านข้างพร้อมทั้งสัมผัสจากฝ่ามืออุ่นร้อนที่กอบกุมอยู่รอบๆยิ่งพาให้พวกเขาเตลิดหนัก
แขนผอมบางรั้งต้นคออีกคนให้โน้มกายลงมาประกบปากกันอีกครั้ง
ลิ้นเรียวสวยเกี่ยวพันกันยุ่งเหยิง มือเล็กลูบไล้ไปทั่วบ่าแกร่งและแผ่นหลังหนาอย่างรู้สึกดี
แยกขาออกกว้างให้อีกคนได้ขยับสะโพกแนบชิดใกล้ ขยับเสียดสีส่วนอุ่นร้อนนั้นแนบชิดกับของเขา
ขณะที่มือใหญ่ก็ขยับสาวไปด้วย
ร่างหนาเปลี่ยนให้เขาเป็นฝ่ายขยับมือแทนบ้าง
ร่างเล็กรวบมือทั้งสองข้างเข้าด้วยกันแล้วเร่งมือหนักไปตามอารมณ์ที่พุ่งพล่าน ตั้นลูบไล้ไปตามเรียวขาสวย
ซุกไซร้ไปตามซอกคอเล็กแล้วเม้มจูบแรงๆ
“ฮึก.. ไอ้ตั้น
อ๊ะ.. จะ..ไม่ไหว” คนตัวเล็กบอกเสียงกระเส่า
ก่อนจะอ้าปากงับลาดไหล่อีกคนอย่างลืมตัว ขยับมือเร่งอีกเพียงไม่นานก็ปลดปล่อยออกมาก่อนที่ร่างสูงจะตามไปติดๆ
พวกเขานั่งหอบกันอยู่สักพัก
แล้วตั้นก็ขยับตัวออกจากซอกคอของเขา ลุกไปหยิบทิชชู่มาเช็ดคราบต่างๆตามตัว