วันอาทิตย์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2561

Please, stop! ตอนที่่ 11




           แซนด์ค่อยๆเผยอปากออกเมื่ออีกฝ่ายดูดดึงจนริมฝีปากเขาบวมแดงไปหมด ปล่อยให้ร่างสูงส่งลิ้นชื้นแฉะเข้ามาสำรวจภายในโพรงปากเล็ก ตั้นไล้เรียวลิ้นไปตามไรฟันอีกฝ่าย ก่อนจะเกี่ยวกระหวัดเอาลิ้นอีกคนเข้ามาในปากของเขาบ้าง


           จูบคราวนี้ของพวกเขาไม่ได้เร่าร้อนดุดันดังเช่นเมื่อวาน เป็นเพียงแค่สัมผัสอ่อนโยนที่มอบให้กัน มันแผ่วเบา

           แต่ก็วาบหวาม



           มือเรียวยกขึ้นเกาะเสื้อของอีกฝ่ายเอาไว้ ก่อนจะกระตุกน้อยๆเมื่อรู้สึกว่าเริ่มจะหายใจไม่ทัน ร่างสูงผละออกให้เขาสูดหายใจเข้าเล็กน้อย ยังไม่ทันจะพักได้เท่าไหร่ก็ประกบริมฝีปากเข้ามาอีกครั้ง มือหนาเลื่อนลงไปลูบไล้เอวบาง รั้งให้กายชิดใกล้


           ร่างสูงกดจูบหนักๆลงไปบนกลีบปากสีสวยอีกสักครั้ง ก่อนจะไล้สันจมูกลงมาตามซอกคอของอีกคน


           “ดะ.. เดี๋ยว อย่าทำรอยนะ” ร่างบางเอ่ยออกมาทั้งที่ยังหอบอยู่ พาให้อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมามองอย่างมีคำถาม


           “ก็บอกไว้ก่อน รอยที่มึงทำกูไว้เมื่อวานยังไม่หายเลยมั้ง” จากที่เขามาเห็นเอาเมื่อตอนเช้าน่ะนะ รอยดูดเต็มตัวเลย โชคดีที่ไอ้ตั้นมันไม่ได้ทำไว้สูงเกินคอเสื้อ ก็เลยไม่มีปัญหาอะไรเท่าไหร่


           ตั้นชะงักไปนิดหน่อยเมื่อได้ยินดังนั้น  ก่อนจะผละออกมาจากตัวของอีกคนให้ร่างบางเลิกคิ้วด้วยความสงสัย ไม่ทันจะได้ถามอะไรร่างหนาก็จับเอาชายเสื้อของเขาแล้วถกขึ้นซะแล้ว แซนด์ร้องออกมานิดหน่อยด้วยอารามตกใจ แต่ก็ปล่อยให้เสื้อนิสิตของตัวเองโดนโยนทิ้งไปที่มุมห้อง ขณะที่ตั้นเองก็ถกเสื้อตัวเองถอดออกแล้วโยนตามไปเช่นกัน


           “เหี้ย!! รอยพวกนี้คือ..!!?”

           “อืม”
           

           ตามเนื้อตัวของอีกคนนั้นเต็มไปด้วยรอยแดงช้ำแทบจะทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่ตรงช่วงอก ช่วงหน้าท้อง หรือแม้แต่ตรงลำคอที่แซนด์เพิ่งจะสังเกตเห็น ไหนจะรอยฟัน รอยเล็บ ต่างจากตัวเขาที่มีเพียงแค่รอยแดงสลับเข้มบ้างจางบ้าง เรียกได้ว่าดูเล็กน้อยไปเลยเมื่อเทียบกับอีกฝ่าย

           “นี่กูทำหมดเลยหรอวะเนี่ย! ขอโทษนะเว้ยมึง”

           “มึงรู้มั้ย กูโดนเพื่อนแซวทั้งวันเลย” ตั้นพูดขำๆ “แล้วรอยที่ตัวมึงอ่ะ กูไม่ได้จะทำแรงเลยนะ อันนั้นมึงขอ”
           

           ได้ยินดังนั้นแซนด์ก็หน้าขึ้นสีก่ำ ถึงจะจำไม่ค่อยได้ แต่ดูจากสภาพอีกฝ่ายแล้วคงไม่ได้พูดเล่น


           ทำไมมึงมั่ยอ่อนโยนเลยวะไอ้แซนด์!


           “มึงก็ไม่ต้องเชื่อกูทุกอย่างก็ได้ ห้ามกูบ้างดิ” เขาพูดเสียงอ่อย ยกมือขึ้นแตะรอยฟันตรงหัวไหล่อีกคนอย่างกังวล  “เจ็บป้ะวะ”

           “กูไม่เป็นไร” ตั้นจับมือของอีกคนขึ้นมางับนิ้วเบาๆ

           “เห็นมั้ย ไม่เจ็บซะหน่อย” คนตัวเล็กทำปากยู่ด้วยรู้ว่ามันแค่ทำเพื่อให้เขาสบายใจ

           “อีกอย่างตอนมึงเมาก็เซ็กซี่ดี กูชอบ” แซนด์หน้าแดงอีกครั้ง ถึงรู้ว่ามันจะพูดแกล้งเขาเล่นๆแต่ประโยคบ้าบอของมันก็พาเขาใจเต้นอยู่ไม่น้อย เขาเลยแกล้งทำเมินไม่ตอบแล้วดันไหล่อีกคนลงบนเตียงแทน


           “สัญญาวันนี้กูจะไม่รุนแรง”


           วันนี้พี่แซนด์จะอ่อนโยน!


           เขาปฏิญาณกับตัวเองในใจแล้วขยับเข้าแทรกกลางตัวอีกฝ่าย ลากลิ้นเลียไปตามรอยแดงช้ำที่ตนเองกระทำเอาไว้ เลียจนบริเวณนั้นชื้นแฉะแล้วจูบซับราวกับว่าทำแล้วรอยช้ำมันจะหายได้ไวกว่าเดิม สัมผัสผะแผ่วไล่จากต้นคอหนาของอีกคนลงมาตามแผ่นอกและหน้าท้องแข็งแกร่ง ได้ยินเสียงอีกฝ่ายผ่อนลมหายใจอย่างพึงพอใจ


           เขาลากมือลงไปตามกางเกงสีเข้มแล้วเริ่มปลดเข็ดขัดออกให้  แซนด์ดึงกางเกงอีกฝ่ายออก ลูบไล้ไปตามสะโพกหนาและต้นขาของอีกคน


           อืม มาได้แค่นี้แหละ
           

           ตั้นมองอีกคนที่ยังคงวนอยู่ตามลำตัวของเขา ไม่ได้คืบหน้าไปไหน และคิดว่าคงเป็นอย่างนี้ทั้งคืนแน่ๆหากเขาไม่เริ่มก่อน เขาจึงจับตัวผอมบางของอีกคนพลิกให้ลงไปอยู่ใต้ร่างแทน


           กดจูบแผ่วเบาลงตรงซอกคอของอีกฝ่าย ไล้ลงมาตามแนวลาดไหล่เล็ก ก่อนจะขบเม้มจนมันขึ้นสีเข้มแฉกเช่นรอยบนตัวเขาเอง เงยหน้าขึ้นมองเห็นไอ้แซนด์แอบน้ำตาคลอแต่มันก็ไม่ได้ว่าอะไร เขาเลยจูบซ้ำลงไปบนรอยสีแดงช้ำอย่างอ่อนโยน มันยกมือขึ้นมาบีบไหล่เขาเอาไว้เบาๆ ดวงหน้าหวานขึ้นสีก่ำอย่างน่าเอ็นดู


           ร่างสูงไล้สันจมูกลงมาตามผิวเนียน กดจูบบ้าง ขบเบาๆบ้าง ขณะมือก็สาละวนอยู่กับการถอดกางเกงของอีกคนออก ตั้นอ้าปากกัดลงบนแผ่นอกข้างซ้าย เขามองรอยฟันที่ขึ้นมาจางๆอย่างพอใจ ก่อนจะครอบริมฝีปากลงไปบนตุ่มไตสีหวาน ทั้งขบเม้มและดูดดึงจนมันเริ่มแข็งขึ้นมาหน่อยๆ เสียงหวานร้องครางออกมาสั่นเครือ ดูท่าว่าเครื่องมันเองก็คงเริ่มติดแล้วเหมือนกัน


           แต่ยังก่อน


           ตั้นผละออกแล้วพรมจูบวนบนหน้าท้องขาว และเริ่มขบเม้มทำรอยอีกครั้งเหนือขอบกางเกงบ็อกเซอร์ ยามนี้มือเรียวสวยเริ่มจิกเล็บลงมาบนไหล่ของเขาเบาๆ ร่างสูงเลื่อนตัวลงต่ำอีกครั้ง ผ่านผ้าเนื้อบางลงไปตรงต้นขาของอีกคน


           “อ้ะ.. อืออ” เสียงหวานหลุดออกมาเป็นระยะเมื่อเขาลากลิ้นร้อนเลียต้นขาด้านในของอีกคน ขบเม้มให้ขึ้นสีจางๆจากล่างไล่ขึ้นบน และทำจนขึ้นสีเข้มสุดบริเวณเกือบติดขอบล่างของกางเกงบ็อกเซอร์


           มือหนายกขึ้นไปเกี่ยวขอบกางเกงตัวบางเอาไว้ ขณะที่กำลังจะถอดออกก็กลับโดนรั้งไว้ด้วยมือเรียวสวยของใครอีกคน เจ้าตัวขบฟันลงบนริมฝีปากอิ่มท่าทางกังวล ถึงกระนั้นพวงแก้มใสกลับขึ้นสีอย่างมีอารมณ์


           เขาจูบซ้ำลงไปบนรอยสีกุหลาบอีกครั้งอย่างแผ่วเบา ส่งสายตาบอกว่าไม่ต้องกังวล สายตาฉ่ำเยิ้มมองเขาลังเล ก่อนจะยอมปล่อยมือให้เขาได้ถอดปราการชิ้นสุดท้ายออกในที่สุด ตั้นขยับไปหยิบเอาหมอนวางซ้อนกันตรงหัวเตียงแล้วตบปุๆ


           “มึงเขยิบมานี่” ร่างบางย้ายตัวเองขึ้นไปตามคำสั่งของอีกคน มองร่างสูงที่ถอดบ็อกเซอร์ของตัวเองออกบ้างแล้วก็ต้องหน้าแดงขึ้นมาด้วยความเขินอาย


           คือรู้แล้วว่ามึงมีเชื้อฝรั่ง แต่มันจำเป็นต้องใหญ่ขนาดนั้นมั้ยอ่ะตั้น


           ร่างหนาขยับตัวเข้ามาใกล้เขาแล้วจับหัวเข่าเขาแยกออกจากกัน

           แหงล่ะเขาก็ต้องขัดขืนน่ะสิ! แต่ไอ้ตั้นก็มองเขาดุๆ จนเขายอมปล่อยให้มันทำตามใจ มันยกขาเขารั้งขึ้นแล้วแทรกตัวเข้ามาตรงกลาง


           “ท่านี้มันล่อแหลมไปมั้ยวะมึง” คนข้างใต้ถามอายๆ ร่างสูงยิ้มขำแล้วไม่ตอบ โน้มตัวลงมาประกบปากกับเขาแทน ขยับมือมารั้งมือของเขาที่กุมปิดส่วนน่าอายของตัวเองออก แล้วส่งมือของตัวเองมากอบกุมเอาไว้แทน


           มือหนาขยับลูบส่วนที่เริ่มแข็งขืนของอีกฝ่าย ก่อนจะเริ่มสาวไปตามความยาวเบาๆ เขาผละริมฝีปากออกแล้วขยับตัวไปกดจูบข้างขมับชื้นเหงื่อของอีกคน


           เห็นดังนั้นแซนด์เองจึงเริ่มยื่นมือของตัวเองออกไปบ้าง มือเรียวสั่นน้อยๆในคราแรก แต่สัมผัสอุ่นร้อนของอีกคนก็พาเขาเริ่มคิดอะไรไม่ออกในที่สุด


           “ซี๊ดด อือ.. อ๊ะ” ร่างบางสูดปากด้วยความเสียวซ่านเมื่ออีกคนคลึงนิ้วลงไปบริเวณส่วนปลาย


           ด้วยความที่เป็นเพศเดียวกัน การจะสัมผัสอย่างไรให้อีกฝ่ายรู้สึกดีนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ยากนัก


           เสียงลมหายใจหนักหน่วงปะปนไปกับเสียงชื้นแฉะของส่วนอ่อนไหว


           ร่างหนาขยับสะโพกเข้าใกล้แล้วรวบเอาส่วนแข็งขืนของพวกเขาเอาไว้ด้วยกัน

           ความอุ่นร้อนที่เสียดสีอยู่ด้านข้างพร้อมทั้งสัมผัสจากฝ่ามืออุ่นร้อนที่กอบกุมอยู่รอบๆยิ่งพาให้พวกเขาเตลิดหนัก แขนผอมบางรั้งต้นคออีกคนให้โน้มกายลงมาประกบปากกันอีกครั้ง ลิ้นเรียวสวยเกี่ยวพันกันยุ่งเหยิง มือเล็กลูบไล้ไปทั่วบ่าแกร่งและแผ่นหลังหนาอย่างรู้สึกดี แยกขาออกกว้างให้อีกคนได้ขยับสะโพกแนบชิดใกล้ ขยับเสียดสีส่วนอุ่นร้อนนั้นแนบชิดกับของเขา ขณะที่มือใหญ่ก็ขยับสาวไปด้วย


           ร่างหนาเปลี่ยนให้เขาเป็นฝ่ายขยับมือแทนบ้าง ร่างเล็กรวบมือทั้งสองข้างเข้าด้วยกันแล้วเร่งมือหนักไปตามอารมณ์ที่พุ่งพล่าน ตั้นลูบไล้ไปตามเรียวขาสวย ซุกไซร้ไปตามซอกคอเล็กแล้วเม้มจูบแรงๆ


           “ฮึก.. ไอ้ตั้น อ๊ะ.. จะ..ไม่ไหว” คนตัวเล็กบอกเสียงกระเส่า ก่อนจะอ้าปากงับลาดไหล่อีกคนอย่างลืมตัว ขยับมือเร่งอีกเพียงไม่นานก็ปลดปล่อยออกมาก่อนที่ร่างสูงจะตามไปติดๆ


           พวกเขานั่งหอบกันอยู่สักพัก แล้วตั้นก็ขยับตัวออกจากซอกคอของเขา ลุกไปหยิบทิชชู่มาเช็ดคราบต่างๆตามตัว






วันจันทร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2561

TanSand - There's Nothing Holdin' Me Back



อันนี้เพื่อนทำไว้ให้ค่ะ อิ้อิ้
ส่วนตัวชอบบรรยากาศสบายๆที่นางทำมามากเลย ดูไปก็เขินไป 
ยิ่งซีนนอนถอดเสื้อเล่นเกมส์นี่แบบ โอ้ยยยย รู้ใจชั้นมากเพื่อนรัก 55555555 
ชอบฉากไหนหวีดตามแท็กได้เลยงับ จะได้เอาไปบอกเจ้าตัวให้นางดีใจเล่น 555
ฟังเพลงเพราะๆชมวีดีโอสวยๆรอกันไปก่อนน่อ 
เดี๋ยวจะตั้งใจเข็นตอนใหม่ออกมาให้อ่านกันจ้า
เลิฟฟ <3

วันอาทิตย์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2561

Please, stop! ตอนที่่ 9



            เขาชั่งใจสักพักก่อนปล่อยมือให้อีกฝ่ายเป็นอิสระ ความจริงเขาเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าอย่างมันจะทำไปได้ซักแค่ไหนกันเชียว สักพักอาจจะรู้สึกตัวก็ได้ว่าทำอะไรอยู่หรือไม่ก็คงสลบไปเลย ดื่มไปเยอะขนาดนั้นคงตื่นได้ไม่นานหรอก

            แซนด์ที่อยู่บนตัวเขาทำท่าทางงุ่นง่านอยู่ซักพักก่อนจะถามออกมา

            “มันต้องทำยังไงมั่งอ่ะ” เขาเองก็นิ่งนึกไปสักพัก แหงล่ะเขาจะไปรู้ได้ไง ในเมื่อเขาเองก็ไม่เคยทำอะไรแบบนี้กับเพื่อนผู้ชายเหมือนกัน ไอ้ที่พูดให้มันฟังอยู่ทุกวันนี่ตอแหลล้วนๆ

            “ก็เหมือนแฟนกันปกติมั้ง” เขาตอบส่งๆ มันก็พยักหน้าเข้าใจแล้วโน้มตัวลงมาหอมแก้มเขาเบาๆ มันเหมือนนิ่งคิดไปสักพักก่อนจะขยับไปหน้าเลยไปไซร้กกหูเขาต่อ

            “มึงอยากหรอ” เขาถามขณะปล่อยอีกคนแทะเล็มใบหูตัวเองไปเรื่อย มันส่งเสียงตอบรับกลับมาเบาๆ

            “แล้วไม่ให้กูทำให้อ่ะ มาทำให้กูทำไม” แซนด์ผละหน้าออกมาจากซอกคอของเขาเพื่อตอบคำถาม

            “ก็เคยเห็นมึงบอกว่าแลกกันทำ เดี๋ยวกูทำให้ก่อนแล้วมึงค่อยทำให้กูไง” มันพูดอ้อมแอ้ม ไม่รู้ว่าที่แก้มมันแดงเพราะเมาหรือเพราะเขินกันแน่ เขาพยักหน้ารับปล่อยให้มันทำต่อไปแม้จะจำไม่ได้ว่าตัวเองเคยพูดอะไรทำนองนั้นเอาไว้รึเปล่า

            คนตัวเล็กสอดมือของตนเองเข้าไปใต้กลุ่มผมของเขาแล้วกระชากให้เขาเงยหน้าขึ้นขณะที่ตัวเองขบเม้มไปทั่วลำคอของเขา

            เมาแล้วดุนะเนี่ย

            ท่าทางแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปจะช่วยให้เขามีอารมณ์ขึ้นมาไม่ยากเย็น แต่ร่างสูงก็ต้องพยายามหักห้ามใจไม่ให้ตนเองส่งมือออกไปสัมผัสอีกคน ถ้าเขาทำแบบนั้นเรื่องก็คงยิ่งไปกันใหญ่ เขาไม่อยากจะทำอะไรคนเมาหรอกนะ

            แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่ให้ความร่วมมือเท่าไหร่ เมื่อคนที่คร่อมอยู่บนหน้าขาเขาเล่นขยับสะโพกจนเกือบจะขึ้นมาโดนของเขาอยู่หลายครั้ง ร่างบางเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเขา ดวงตาคู่นั้นฉายแววสนุกออกมาอย่างปิดไม่มิดเมื่อเห็นเขาพยายามผ่อนลมหายใจให้เป็นปกติมากที่สุด

            อดทนไว้ไอ้ตั้น อดทน

            ร่างเล็กเลื่อนตัวจูบซับลงมาตามลอนกล้ามท้องขณะมือก็ลูบต้นขาแกร่งไปด้วย ริมฝีปากอิ่มพรมจูบวนอยู่เหนือผ้าเช็ดตัวที่พันไว้อย่างหมิ่นแหม่น่าหวาดเสียว

            ท่าจะแย่แล้วสิ

            “เปลี่ยนกัน” เขาบอกเมื่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่สู้ดีเท่าไหร่นัก เรียกให้อีกคนกลับขึ้นมาแล้วย้ายที่ไปกันที่กลางเตียง

            “นอนกันดีกว่ามั้ย กูว่ากูเริ่มง่วงแล้วอ่ะ” เขาบอกอีกคนที่นอนอยู่ใต้ร่าง แซนด์ยกแขนขึ้นมาโอบรั้งให้เขาลงไปใกล้

            “จากที่กูดูกูว่ามึงก็ยังตื่นอยู่น้า” ร่างบางคลี่ยิ้มซุกซน รั้งใบหน้าเขาให้ลงไปใกล้แล้วกระซิบเสียงหวานก่อนจะขบใบหูเขาเล่นอย่างหยอกเย้า “อย่าทำให้เสียเวลา รีบๆต่อกันได้แล้ว”

            เขาซุกใบหน้าลงที่ซอกคอขาวแล้วเล้าโลมอีกฝ่ายอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทำทุกอย่างด้วยความเชื่องช้าหวังถ่วงเวลามันให้ได้มากที่สุด ถ้ามันไม่หมดอารมณ์ไปก่อนก็อาจจะผล็อยหลับไปเลยก็ได้

            ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่พอใจเท่าไหร่นัก มันดันตัวเขาออก สายตาขุ่นเคืองมองเขาอย่างตำหนิ

            “กูไม่เชื่อหรอกว่ามึงจะได้แค่นี้อ่ะ” เขาไม่แสดงสีหน้าอะไรตอบจนอีกฝ่ายจิ๊ปากอย่างขัดใจ

            คนตัวเล็กรั้งใบหน้าของเขาเข้าไปใกล้แล้วประกบปากเข้าหาทันที ร่างบางดูดดึงริมฝีปากเขาอย่างปลุกเร้า แต่ไม่ว่าจะทำอะไรเท่าไหร่เขาก็ไม่ยอมตอบสนองจนมันยอมผละออก

            “กูไม่อยากทำให้มึงเสียใจ ตอนนี้มึงกำลังเมานะไอ้แซนด์” เขาบอกอย่างใจเย็น

            “เรื่องแบบนั้นมึงให้กูตัดสินใจเองเหอะ อีกอย่างเราก็ไม่ได้ทำอะไรเสียหายไม่ใช่หรอวะ ก็แค่เพื่อนช่วยเพื่อนนิดๆหน่อยๆเอง” พวกเขาสบตากันสักพัก เมื่อเห็นท่าทางว่าอีกฝ่ายคงไม่ยอมเปลี่ยนใจง่ายๆเขาก็ต้องถอนหายใจออกมา

            “อย่ามาด่ากูทีหลังก็แล้วกัน”

            “ต้องงี๊ดิวะ” มันคลี่ยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดีแล้วหัวเราะคิกคักยามที่เขาโน้มใบหน้าลงไปจูบที่ริมฝีปากก่อนจะค่อยๆเงียบลง

            เขาไล้ลิ้นไปทั่วโพรงปากเล็กขณะที่มันเองก็ส่งลิ้นมาพันอยู่กับของเขาเช่นกัน จูบแสนเร่าร้อนดำเนินไปสักพักก่อนที่เขาจะผละออกมา

            ตั้นส่งมือไปลูบไล้ผิวเนียนใต้เสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินของอีกคน แล้วช่วยมันถอดเสื้อออก ขณะที่มันเองก็ปลดเข็มขัดแล้วถอดกางเกงยีนส์ออกไปด้วย เหลือไว้เพียงบ็อกเซอร์ตัวบางเท่านั้น


            แหม พอเหล้าเข้าปากแล้วไอ้ที่เคยหวงๆนี่ลืมไปหมดเลยนะ


            ตั้นคิดขำๆ แล้วก้มลงใช้ลิ้นเลียไปที่ยอดอกสีหวาน

            “ขาวไม่พอยังจะชมพูอีกนะมึงเนี่ย” กายผอมบางของอีกคนก็เร้าอารมณ์ของเขาได้ดีในระดับหนึ่ง ถ้าจะให้พูดตอนนี้อีกฝ่ายมันคงน่ากินพอๆกับพวกผู้หญิงที่เขาเคยนอนด้วยเลยมั้ง แค่ไม่มีหน้าอกหน้าใจให้บีบเล่นแค่นั้นเอง แต่ถ้าบอกออกไปมันคงจะโมโหน่าดู

            แซนด์ใช้มือดันไหล่หนาเอาไว้แล้วพูดปรามเขินๆ “กูเป็นผู้ชาย ทำตรงนี้ไปก็ไม่รู้สึกหรอก”

            “เป็นผู้ชายก็รู้สึกได้” เขาบอกแล้วจับมือเล็กออกก่อนจะก้มลงอีกรอบ ซึ่งแน่นอนล่ะว่าเขาก็โกหกมันอีกแล้ว ขณะมืออีกข้างก็ลูบไล้ไปที่เอวบาง คนใต้ร่างส่งเสียงครางผะแผ่วในลำคออย่างพึงพอใจ

         เขาผละขึ้นมาจูบไปที่ไหปลาร้าของอีกคน สบตาเข้ากับอีกฝ่ายที่ฉายแววความปรารถนาที่ล้นปรี่

            ร่างสูงขยับมือลงไปลูบสะโพกของอีกคนขณะเลื่อนริมฝีปากลงไปแนบชิด

            “ถอดสิ” ร่างบางพูดเสียงหวานทั้งๆที่ริมฝีปากอยู่ชิดกับริมฝีปากของเขา ดวงตาคู่สวยมองอย่างออดอ้อน  จนเขาใจเต้นขึ้นมาเสียอย่างนั้น


     
            เอาวะ



            อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด